top of page
ครีมทาฝ้า พลัส ดร.พรงาม

ครีมทาฝ้า สูตรใหม่ล่าสุด จาก ศ.ดร. พรงาม

 PHYTONUTRIENTS FACIAL WHITENING GEL PLUS +++
นวัตกรรมขจัดฝ้า คืนหน้าขาวไว ใสเร็ว ล่าสุด ของ ศ.ดร.พรงาม

  • ครีมทาฝ้า Phytonutrients สำหรับคนวัย 30 ปีขึ้นไป จากผลงานวิจ้ยใหม่ล่าสุด นวัตรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเวชศาสตร์ชลอวัย

  • ลดเลือนจุดด่างดำแห่งวัย จุดแก่ Agespots หรือจุดฝ้ากระที่หนามากขึ้นตามว้ย 

  • ด้วยเทคโนโลยีอนุภาคนาโนที่คัดสรรจากสารสกัดพืชชั้นเลิศทั้งใน และต่างประเทศ เช่น DELENTIGO™  Plant Growth Essential สวิสเซอร์แลนด์ เป็นสารสกัดจากเซลล์อ่อนพืช  ฝ้า กระ จุดด่างดำ (age spots) แลดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสและเนียนเรียบ สีผิวสม่ำเสมอ

  • เสริมคุณค่าด้วยอนุภาค Nano White ในรูปแบบไลโปโซม ช่วยทำให้เนื้อครีมซึมซาบเร็ว เป็น

  • ครีมที่เหมาะกับผู้มีผิวแพ้ง่าย เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของสี พาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายต่อผิว

ครีมทาฝ้า ลดเลือนฝ้ากระ จุดด่างดำแห่งวัย Agespots ด้วยสารสกัดเซลอ่อนพืช Plant Growth Essential

ครีมทาฝ้า

ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันขึ้นกับแต่ละบุคคล

ตอบทุกโจทย์ฝ้า ครีม Phytonutrients Plus +++ 

  • ครีมทาฝ้า ศ.ดร.พรงาม ที่มี งานวิจัยรักษาฝ้าด้วย สารสกัดเซลอ่อนพืชสวิส  Delentigo  ที่ให้ผลลัพธ์การลดเลือนจุดด่างดำบนผิวหน้า และ ฝ้ากระที่มากขึ้นตามอายุ  หรือ age spots  โดยเฉพาะ   

  • อนุภาคนาโนจากพืช ช่วยผิวหน้าขาวกระจ่างใส สม่ำเสมอทั่วใบหน้า ทั้งยังใช้ได้ผลดีกับผู้ที่เป็น ฝ้าแดด ฝ้าเลือด ฝ้าฮอร์โมน  

  • สูตร พลัส เพิ่มส่วนผสมอาร์บูติน และ วิตามินซีเสถียร   ซึบซาบได้เร็ว ผิวดูซึมได้ดีช่วยให้หน้าขาวไว และใสเร็ว ขึ้น 

  •  นอกจากช่วยลดเลือนฝ้า กระและจุดด่างดำแล้ว ครีมแก้ฝ้า Phytonutrients ยังเป็นครีมบำรุงผิว  ช่วยยกกระชับรูขุมขน ปรับสมดุลผิว เหมาะกับการปรับสภาพผิวแห้งกร้านและผิวมันให้กลับคืนสู่ความสมดุลอีกครั้ง

  •  ครีมทาฝ้า Phytonutrients ไม่ใส่สารเคมีเร่งขาว (ไม่มีส่วนผสมของ สเตียรอยด์ สารปรอท ไฮโดรควิโนน) จึงไม่ทำให้ผิวบางหรือไวต่อแสง

  • เนื้อครีมมีความเนียนนุ่มในแบบ soft cream เป็นเนื้อครีมกึ่งเซรั่ม บางเบา ไม่หนักหน้า ไม่อุดตันผิว ไม่ทำให้หน้าเหนอะ

ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันขึ้นกับแต่ละบุคคล

ไฟโตนิวเทรียนท์

ด่วน!Add line รับสิทธิลดพิเศษ!!

วันนี้ถึง  30 มิถุนายน 2566 เท่านั้น !! 

lazada
Shopee
clickToCall2.gif
CTA2.gif

เภสัชตู ตรวจ ครีม Phytonutrients  ไร้สารเร่งขาว

ครีม Stemcell พืช

ผลหลังเบลล์ทดลองใช้จริง 30 วัน   ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันขึ้นกับแต่ละบุคคล

ครีมรักษาฝ้า ที่ปลอดภัย
6 จุดเด๋น ครีมรักษาฝ้า Phytonutrient
1Ingredients-WhitePLus.jpg

ครีมรักษาฝ้า Phytonutrients สารสกัดที่ผ่านการวิจัยจาก Mibelle Biochemistry Switzerland

DELENTIGO™ Clinical test

จากการศึกษากับอาสาสมัคร Caucasian จำนวน 22 ท่าน ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป พบว่า

1.การใช้ผลิตภัณฑ์ครีมรักษาฝ้าที่มี delentigo 4% ทา2ครั้งต่อวัน ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ พบว่า ฝ้า กระ(Age spot) จางลงชัดเจน โดยไม่ทำให้ผิวบริเวณใกล้เคียงเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้สีผิวขาวใสดูสม่ำเสมอขึ้น

2. เมื่อทา ครีม ที่มี delentigo 4% ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ ความต่างระหว่างเม็ดสี ที่ age spots กับ บริเวณโดยรอบ ลดลงประมาณ50% เมื่อเทียบกับสภาวะเริ่มต้น และ ยังทำให้ผิวโดยรวมขาวกระจ่างใสขึ้น  เห็นผลดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ ครีมหน้าขาว  และ ครีมรักษาฝ้ากระ  อื่นๆที่มาทดสอบ

Nano White Clinical test 

ผลที่เกิดขึ้นกับ Melanin synthesis(การสังเคราะห์เมลานิน) แสดงให้เห็นว่า ครีมลดฝ้าที่ มี Nanowhite เข้มข้น 0.4% จะยับยั้งการเกิดเมลานินได้ถึง 74% และ กระบวณการยับยั้งเป็นแบบ dose-dependent จึงไม่เกิดความเป็นผิดต่อเซลล์ โดยการวิเคราะห์จาก MTT assat

*Nanowhite เหมาะกับการใช้งานร่วมกับ Delentigo เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินและการก่อตัวของ Lipofuscin ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้าและจุดด่างดำ*

เลื่อนเพื่อดูสไลด์ภาพ

ครีมแก้ฝ้า ที่มี สารสกัดพืชชั้นเลิศ อีก 5ชนิด อาทิ ต้นบีท น้ำมันมะกอก  ดอกข้าว เชียร์บัตเตอร์  ที่ช่วย ปรับสมดุล ควบคุมความมัน เพิ่มความชุ่มชื้นลดโอกาสเกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ยังมี นาโนไวท์ อนุภาคนาโนช่วยลดการสร้างเม็ดสีฝ้า หรือเมลานินในผิว 

สารสกัดพืชนานาชนิด ใน ครีมแก้ฝ้า phytonutrients 

งานวิจัย รักษาฝ้า Delentigo
เลื่อนเพื่อดูสไลด์ภาพ

ครีมทาฝ้า phytonutrients 

ศ.ดร.พรงาม เหมาะกับใครบ้าง

1. ผู้ที่มีปัญหา ฝ้า กระ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อมีอายุมากขึ้น มีจุดด่างดำ ages pots ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ

2. ผู้ที่มีผิวคล้ำเสียจากแสงแดด ต้องการปรับผิวให้ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เร่งผิวขาว ไม่ต้องการให้ผิวบางและไวต่อแดด 

3. ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย เกิดผื่นแพ้ง่าย และต้องการสกินแคร์กลุ่ม whitening เพื่อบำรุงผิว  

4. ผู้ที่ต้องการผิวสวยเปล่งประกาย และสุขภาพผิวดีจากภายใน 

5. ครีมทาฝ้า phytonutrients เหมาะกับทุกสภาพผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว โดยไม่เพิ่มความมัน อีกทั้งยังช่วยควบคุมความมันส่วนเกินได้อีกด้วย

ด่วน!Add line รับสิทธิลดพิเศษ!!

วันนี้ถึง  30 มิถุนายน 2566 เท่านั้น !! 

CTA2.gif
lazada-logo-585x328.jpeg
Shopee.png
ครีมลดฝ้า
รีวิวครีม้รักษาฝ้าที่ได้ผลดี
ครีมแก้ฝ้า
ครีมลดฝ้า
ครีมรักษาฝ้า ศ.ดร.พรงาม
ครีมลดฝ้ามี อ.ย.
Screen Shot 2564-06-14 at 16.24.15.png

ด่วน!Add line รับสิทธิลดพิเศษ!!

วันนี้ถึง  30 มิถุนายน 2566 เท่านั้น !! 

CTA2.gif
ครีม Phytonutrients
Call-02.png
ครีมรักษาฝ้าขายดีที่สุด
 รีวิวครีมรักษาฝ้า

 มารู้จักฝ้า

รู้จัก ‘ฝ้า’ บนใบหน้าให้ดีกว่าเดิม พร้อมสาเหตุและวิธีรักษาฝ้าอย่างปลอดภัย

เป็นสิวยังรักษาง่าย แต่ถ้าเป็นฝ้าละก็ รักษายากแน่นอนค่ะ และที่สำคัญฝ้าบนใบหน้าของเรายังสามารถกลับมาเป็นได้อีกถ้าดูแลผิวไม่ดี เพราะฉะนั้น ผลิตภัณฑ์ลดฝ้า จึงกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญของคนที่ต้องเจอปัญหานี้นั่นเอง

แต่การทำความรู้จักกับสาเหตุและแนวทางแก้ไขรวมถึงการดูแลตัวเองในเบื้องต้น ก็เป็นตัวช่วยทำให้ ครีมแก้ฝ้า ได้ผลดียิ่งขึ้น เพราะฉะนั้น ลองมาทำความรู้จัก “ฝ้าบนใบหน้า” กันเถอะค่ะ

 ฝ้ามีกี่ชนิด

1.ฝ้าแดด  คนไทย เป็นมากที่สุด คนบางคนจะเป็นฝ้าง่าย เมื่อผิวหนังไม่แข็งแรงหรือ เมื่ออายุมากขึ้นโดยเฉพาะคนที่มีวัย เกิน 30ปีจะมีโอกาสเกิดฝ้าได้ง่ายกว่า เมื่อโดนยูวี เอจากแสงแดดเป็นตัวกระตุ้น   ที่เรียกว่าฝ้ากระแห่งวัย หรือ Agespot เนื่องจากเมืองไทยมีสภาพร้อน และมีแดดจัด แสงแดดหรือแสงยูวี เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดเม็ดสี  เมลาโตนิน จนทำให้เกิดฝ้า  

2. ฝ้า ฮอร์โมนจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนเช่น ตั้งครรภ์ หลังคลอด  รวมถึงการทานยาบางประเภทที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเช่นยาคุมกำเนิด  นอนดึก  ช่วงการเปลี่ยนแปลงวัย ลักษณะฝ้าเล็กๆกระจายทั่วหน้า  หากมีการนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย และ ทานอาหารผักผลไม้ ที่มีกากละวิตมินซี 

3.ฝ้าเลือด   คือฝ้าที่มีลักษณะเป็นรอยแดงๆ คล้ายเส้นเลือด สังเกตุได้จากเส้นเลือดบริเวณใบหน้ามีปัญหา เสื่อมสภาพ ไม่สามารถกักเก็บเลือดได้  ทำให้เลือดซึมออกมาที่บริเวณใต้ผิวหนัง หรือถ้าเป็นมาซักระยะก็จะสังเกตุเห็นเป็นรอยปื้นๆ มีสีชมพู สีแดง จนไปถึงสีดำ. บางครั้งเกิดจากผิวหน้าทำเลเซอร์มากบ่อยครั้ง ฝ้าเลือดส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ใช้ครีมแก้ฝ้า ที่ มาจากพืชเท่านั้เน

4. ฝ้าตื้นอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) มักมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบชัด เกิดได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้  โดยการใช้ ครีมทาฝ้า และ ครีมกันแดด หากปล่อยไว้นานมีโอกาสพัฒนาเป็นฝ้าฝังลึก

5.ฝ้าฝังลึกมีอาการผิดปกติ อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าชนิดแรก โดยจะเกิดฝ้าในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า จะเกิดความผิดปกติในระดับชั้นผิวหนังแท้ มีลักษณะเป็นสีม่วงๆ อมน้ำเงิน ขอบเขตไม่ชัด รักษาได้ยากกว่าฝ้าชนิดตื้น และไม่ค่อยหายขาด การใช้ยารักษาฝ้า ครีมลดฝ้า และ ครีมกันแดด จะช่วยให้ดีขึ้น 

 สาเหตุเกิดฝ้า

ฝ้ามีสาเหตุหลัก 2 ปัจจัย ดังนี้

1. สาเหตุจากปัจจัยภายใน

คนโบราณจะเรียกฝ้าที่เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกายว่า “ฝ้าเลือด ฝ้าลม” แต่สาเหตุที่แท้จริงนั้น ฝ้าชนิดนี้เกิดขึ้นจากระบบฮอร์โมนในร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงในบางภาวะของเพศหญิง เช่น ในช่วงที่หญิงกินยาคุมกำเนิด หรือช่วงมีรอบเดือน และอีกช่วงคือ ช่วงที่มีการตั้งครรภ์ และอีกสาเหตุที่หนักกว่าเรื่องฮอร์โมนก็คือ ฝ้า เป็นอาการที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมด้วย

ฝ้าที่เกิดจากสาเหตุจากปัจจัยภายในนี่เอง จึงรักษาให้หายได้ยาก เพราะทั้งฮอร์โมน และพันธุกรรมที่ถ่ายทอดทางสายเลือดนั้นอยู่นอกการควบคุม แต่ก็ยังสามารถรักษาให้จางลงได้ด้วย ครีม ที่มีคุณภาพ

2. สาเหตุจากปัจจัยภายนอก

มีทั้งที่เกิดจากการกระทำของธรรมชาติ เช่น รังสีจากแสงแดดธรรมชาติที่เราหลีกหนีไม่พ้น แม้จะระวังอย่างดี ยิ่งยุคนี้ที่ขาดตัวกรองในบรรยากาศ ทำให้รังสี UVA และ UVB กระทบกับผิวโดยตรง หรือเกิดจากปัจจัยที่เราหามาใส่ตัวเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น จากเครื่องสำอาง ครีมบำรุงเพื่อประทินโฉม แต่เกิดอาการแพ้สารที่อยู่ในนั้น แทนที่จะสวยกลับทำให้เป็นฝ้าเต็มหน้า หรือแม้แต่การรักษาโรคที่ต้องใช้ยาบางประเภท เช่น ยากันชัก ก็อาจได้รับผลข้างเคียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็มีแต่ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยภายนอกแบบไหน ต่างก็มีผลกระตุ้นให้เซลล์เม็ดสีในชั้นหนังกำพร้าทำงานผิดปกติ จนทำให้เป็นฝ้าในที่สุด

 วิธีป้องกันการเกิดฝ้า และรักษาฝ้า

ป้องกันการเกิดฝ้าง่ายๆ ใน 5 ขั้นตอน 

1. ไม่กินยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนสูงจนทำให้เกิดภาวะฮอร์โมนแปรปรวน

2. ใช้ครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

3. รักษาสภาพจิตใจ ไม่ให้เกิดความเครียด

4. ล้างหน้าให้สะอาด ไม่หลงเหลือเครื่องสำอางตกค้าง

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

6. เลือกใช้ ครีม ที่ไม่ผสมสารอันตราย

การรักษาฝ้านั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอแค่เราเข้าใจธรรมชาติของการเกิดฝ้า จากนั้นจึงหมั่นดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก คือการเลือกทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิว การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ และที่สำคัญอย่าลืมเลือกใช้ ครีมฝ้า ที่ปลอดภัย ได้ผลจริง หมั่นทาครีมเป็นประจำ ฝ้าที่เกิดขึ้นจะค่อยๆ จางลงจนผิวกลับมาเนียนใสอีกครั้งค่ะ

 วิธีรักษาฝ้ามีกี่วิธี

  1. การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา  วิธีรักษาฝ้าที่ดีคือการป้องกันไม่ให้ตัวกระตุ้นการเกิดฝ้า คือแสงยูวี หลีกเลี่ยงการเจอะแสงแดด ถ้าหากต้องเผชิญแสงแดดก็ควรแต่งกายแบบไม่เผยผิวพร้อมกับทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูวี  ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป และต้องเป็นแบบ PA+++ ด้วย ถึงจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าต้องอยู่ภายใต้แสงแดดตลอดทั้งวัน คุณอาจเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมากกว่านี้ แต่ให้หมั่นทาครีมกันแดดบ่อย ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดยังมีประสิทธิภาพดีพอต่อการป้องกันแสงแดด ส่วนไอร้อนจากเตา รังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็เป็นเหตุทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน ดังนั้นเลี่ยงได้ควรเลี่ยงเลย    ยาบางชนิดกระตุ้นให้เกิดฝ้า เช่น ยาคุมกำเนิด ใช้เครื่องสำอางอะไรแล้วแพ้จนเป็นรอยคล้ายฝ้าหรือไม่ ส่วนมากแล้วจะเป็นเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอมจะเป็นตัวการทำให้เกิดฝ้าลึก รวมไปถึงครีมทาผิวประเภทไวเทนนิ่งที่มีส่วนผสมของสารอันตรายอย่างสาร ไฮโดรควิโนน

  2. วิธีรักษาฝ้าที่ดีคือ การทำให้สุขภาพผิวดีจากภายใน ทานอาหารเสริมวิตามินและ ทำทรีตเมนต์บำรุงผิว รวมไปถึงการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ ในระหว่างการรักษาเราสามารถดูแลตัวเองจากภายในได้โดยการรับประทานทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวใหญ่ขึ้นนั่นเอง

  3. ใช้ครีมรักษาฝ้า ที่มีส่วนผสม ในตัวยาในการลดฝ้า หรือ ป้องกันการเกิดฝ้า    AHA, วิตามินซี, อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก (Kojic) รวมไปถึงครีมรักษาฝ้าต่าง ๆ ก็สามารถทำให้ฝ้าจางลงและทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นได้ เพียงแต่ต้องใช้ระยะเวลานานหน่อยเท่านั้น

  4. รักษาฝ้าด้วยสูตรธรรมชาติ.  เช่น หัวไช้เท้า ว่านหางจระเข้  ใบบัวบก มะขามเปียก

  5. การใช้แสงรักษาฝ้า ด้วยแสงประเภทกลุ่ม เลเซอร์ Yag  IPL ลงบริเวณที่เป็นฝ้า ซึ่งจะให้ผลเร็ว แต่ บางครั้งอาจทิ้งแผลสะเก็ด และ หลีกเลี่ยงการโดนแสงหลังทำ ทั้งนี้ควรอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์

  6. ฉีดเมโส ยารักษาฝ้า  ฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวตื้น ๆ เพื่อการกระจายตัวยาที่ใช้รักษากระลงสู่ชั้นเซลล์ที่มีปัญหา โดยจะฉีดลึกลงไปประมาณ 1-2 มม. ระยะห่างกันไม่เกิน 1 เซนติเมตร เฉพาะบริเวณที่มีปัญหากระและฝ้า แต่ต้องทำการฉีดซ้ำทุก ๆ 1-2 อาทิตย์ วิธีนี้ถ้าจะหวังผลการรักษาให้เป็นที่พอใจคงเป็นไปได้ยาก อย่างมากก็แค่ช่วยให้ฝ้าดูจางลงเท่านั้น

  7. ยาทาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนสามารถช่วยให้การผลิตเม็ดสีถูกขัดขวางจนทำให้ผิวบริเวณที่เป็นฝ้าขาวขึ้นมาได้ แต่แม้ว่าไฮโดรควิโนนจะให้ผลในการรักษาที่ดี แต่มันก็มีข้อเสียและควรระวัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทาง อย. ไทย ไม่อนุญาตให้ซื้อขายกันได้อย่างเสรี เว้นแต่แพทย์เท่านั้นที่สามารถจ่ายครีมที่มีส่วนผสมของยาชนิดนี้ได้

  8. ใช้เครื่องประจุไอออน หรือโฟโน  เพื่อผลักครีมเจล มีผลช่วยผลักยาหรือวิตามินที่เราทาไว้บนผิวให้ซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ยาออกฤทธิ์ในการรักษาได้ดี โดยยาที่นิยมนำมาใช้จะอยู่ในรูปแบบของเจล อย่างเจลอาร์บูติน, เจลโคจิก, เจลวิตามินซี, เจลลิโคไลซ์ และทรานซามิคเจล การรักษาแบบนี้มีผลข้างเคียงน้อย แต่อาจมีอาการระคายเคืองได้บ้าง 

 ครีมรักษาฝ้ามีกี่ประเภท ใช้ครีมชนิดไหนดี

1.ครีมรักษาฝ้า ที่ใส่ สารช่วงระงับขบวนการสร้างเม็ดสี  และสร้างทำให้ผิวขาวหรือความใส AHA, วิตามินซี, อาร์บูติน (Arbutin), กรดโคจิก,กลูตาไทโอน ,กลูโคไบรท์

2. ครีมลดฝ้า ที่มีส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย การลดฝ้าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป  เช่น สาหร่าย,Delentigo ไม่เหมาะสำหรับคนใจร้อน  เพราะไม่ใช่สารกัดขาว แบบประเภทที่จะกล่าวในข้อ 3

3.ครีมที่มีส่วนผสม ไอโดควินโน ซึ่งต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ช่วยให้การผลิตเม็ดสีถูกขัดขวางจนทำให้ผิวบริเวณที่เป็นฝ้าขาวขึ้นมาได้ ให้ผลการรักษารวดเร็วแต่ก็มีผลเสียตามมาค่อนข้างเยอะตามมาจึงต้องใช้อย่างระมัดระวังและอยู่ในการดูแลใกล้ชิดจากแพทย์  ดังนั้น อย.จึงไม่อนุญาตให้ซื้อขายกันได้อย่างเสรี เว้นแต่แพทย์เท่านั้นที่สามารถจ่ายครีมที่มีส่วนผสมของยาชนิดนี้ได้  

 อันตรายจากสารเร่งความขาวในครีมแก้ฝ้า ครีมทาฝ้า

ครีมแก้ฝ้า ครีมทาฝ้า ที่ไร้คุณภาพและเน้นให้ความขาวไวๆๆ  เช่นมีการโฆษณา ว่าขาวใน 7 วัน นั้นถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะครีมแก้ฝ้าพวกนี้ มักจะใส่สารเร่งขาว แม้จะให้ผลดีในระยะแรกๆๆแต่ก็มีผลร้ายข้างเคียงตามมาอย่างคาดไม่ถึง  สารเร่งขาวต่างๆเหล่านี้ จะทำให้หน้าบาง และ หน้าดำ กลับมาเป็นฝ้าถาวรได้ 

  1. สารปรอท ในครีมทาฝ้า  ทำให้แพ้ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง ทางเดินปัสาวะอักเสบ ไตอักเสบ

  2. สารไอโดรควิโนนทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองอักเสบหน้าแดง เกิดตุ่มแดง​ได้  เกิดภาวะผิวคล้ำมากขึ้นและกลับมาเป็นฝ้าถาวรได้   ทั้งนี้มีโอกาสเสียงต่อการเป็นมะเร็วผิวหนัง

  3. สเตียรอยด์ ในครีมทาฝ้า ทำให้ผิวบาง เกิดรอยแตก และฝ้าเลือด ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนังแตก เกิดผื่นแพ้สิวผด ผิวหนังจางลงจนเป็นจุดด่าง หากใช้เป็นเวลานาน

  4. กรดวิตามินเอ ในครีมแก้ฝ้า ทำให้หน้าแดง แสบร้อนรุนแรง เกิดอาการระคายเคืองหรืออักเสบ  ผิวหน้าไวต่อแสง ทำให้หน้าบางและ แพ้แสงไฟ แสงแดดได้ง่าย  ทั้งยังเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ ผู้เป็นฝ้าฮอร์โมน ฝ้าขณะคลอด ไม่ควรใช้

ดังนั้น เราควรใช้ครีมแก้ฝ้า จากแหล่งที่มีความเชื่อถือ และ ครีมลดฝ้าที่มี อ.ย. หมายเลขแจ้งจด ของอย.อย่างชัดเจน ​

 ครีมรักษาฝ้า ทำให้ฝ้าหายขาดไหม

 ต้องเข้าใจก่อนว่า การเป็นฝ้านั้นเป็นขบวนการธรรมชาติ เช่นเดียวกับ วัยรุ่นทำไมชอบเป็นสิว เพราะต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมากปกติ เกิดอุดตัน   ฝ้าก็เช่นกัน เมื่อเราอายุมากขึ้นผิวจะแข็งแรงน้อยลง และ ขบวนการสร้างเม็ดสี หรือ เมลานิน ในชั้นผิว ก็เพื่อป้องกันผิวจากแสงยูวีที่ทำลายผิวเรา  ฝ้าจึงเป็นกลไกปกป้องผิวตามธรรมชาติแต่ที่เราไม่ชอบคือเม็ดสี ที่ทำให้เราเกิดฝ้า   โดยเฉพาะเราอายุมาก โอกาสเกิดฝ้าง่ายขึ้น สำหรับคนวัย 30 ปีไปแล้ว  ในครีมรักษาฝ้าจึงมีขบวนการย้อน หรือ บล็อคขบวนการสร้างเม็ดสี  หรือ ฝ้านั่นเอง 

 หากเราไม่ดูแลฝ้าจะมีโอกาสลึกและหนามากขึ้นตามวัยที่มากขึ้น  ดังนั้น  ที่ว่าสามารถรักษาหายขาดไม่กลับมาเป็นอีกคือ ส่ิงที่ขัดกับธรรมชาติ   เพียงแต่เราสามารถดูแลบรรเทาให้จางลง และชลอให้กลับมาเป็นได้ช้าลง โดยหมั่นดูแลผิวและหลีกเลี่ยงปัจจัยเกิดฝ้า 

 

เมื่อฝ้าดีขึ้นแล้วสามารถหยุด ครีมแก้ฝ้าได้ไหม

 เมื่อดีขึ้นแล้วสามารถหยุด ครีมแก้ฝ้าหรือ ยาแก้ฝ้าได้  แต่ก็ต้องระวังปัจจัยเสี่ยง เช่น หลีกเลี่ยงการโดนแสงยูวี แสงหน้าจอคอมฯ แสงไฟ  หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรทาครีมกันแดดที่ป้องกันแสงยูวีเอ ยูวีบี  พยายาม อย่าเครียด และ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึก หรือนอนน้อย ซึ่งมีผลต่อภูมิต้านทานผิวของเรา  ทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี     

 Customer reviews  รีวิวครีม ศ.ดร.พรงาม  จาก ผู้ใช้จริง

ครีมทาฝ้า

รีวิวครีมทาฝ้า จากลูกค้าตัวจริง

คุณ ปุ้ย เจ้าของร้าน belinda   แฟชั่นและ จตุจักร

ประทับใจครีม  Pjhytonutrients ปุ้ยเคยเป็นฝ้า เพราะ เลเซอร์ หลัง ใช้ ฝ้าจางลงเยอะ หน้าใส จน เพื่อนๆทัก  พอใจผลพลัธ์มากต้อง ครีมทาฝ้า ศ.ดร.พรงามค่ะ

ครีมแก้ฝ้า

รีวิว ครีมแก้ฝ้า ผู้ชายก็ใช้

ไอซ์ เคยแพ้ ครีมแก้ฟ้า ที่มีสารเร่งขาว หน้าบางมากโดนแดดไม่ได้ ตอนนี้หายแล้ว หลังใช้ ครีมแก้ฝ้า phytonutrients หน้าแข็งแรงขึ้นไม่แดงง่าย ฝ้ากระ รอยดำ จางลง  ด้วย ครีมแก้ฝ้า ศ.ดร.พรงาม  Phyytonutrients

ครีมรักษาฝ้า

นีน่า รีวิว ครีมรักษาฝ้า

นี่น่าเป็นกระ ซึ่งเป็นปัญหาส่วนใหญ่ของผิวลูกครึ่งอย่างนี่น่า  เป็นมานานแต่ก็ จางลงได้ เพราะ ครีมรักษาฝ้า ตัวนี้เลยค่ะ. Phytonutrients  ตัวเก่งของ นีน่า วิทวัสค่ะ

ครีมลดฝ้า

รีวิว ครีมลดฝ้า ตวง สาวิกา ดาราพิธี

เป็นกระแต่เด็ก  เมื่อโตขึ้นกระดูใหญ่ขึ้น ไม่มั่นใจ จนได้เจอครีมลดฝ้า ศ.ดร.พรงาม ช่วยแก้ปัญหาสำหรนับคนมีฝ้า กระ ได้จริงๆ  ลดฝ้าได้ดี  ผิวไม่บาง  ต้องตัวนี้เลยค่ะ ครีมลดฝ้า Phytonutrients

bottom of page